การลงทุนที่หวังผลถึงระยะยาวของเชลซี
โดยปกติแล้วการซื้อขายนักเตะนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การเสริมที่เดียวเป็นบ้าเป็นหลังนั้น ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะมันจะทำให้ทีมเสียระบบอย่างแรงและอาจส่งผลทำให้พวกเขาขาดทุนกับซื้อขายไปด้วย แต่… นั้นอาจจะไม่ใช่กับที่เชลซี
หากมองย้อนกลับไปในอดีต ในเคสของท็อตแน่มฮ็อตสเปอร์นั้น พวกเขาเคยเสริมทัพกันมาอย่างหนาแน่นมีแข้งใหม่ตบเท้าเข้าทีมถึง 9 คนในตลาดเดียวหลังจากที่ขาย แกเร็ธ เบลไปให้กับเรอัล มาดริด ผลที่ออกมาก็คือเละเทะ 9 นักเตะทั้งหมดในตอนนั้นมีเพียง คริสเตียน อีริคเซ่น ที่อยู่รอดและปังสุดๆถ้งแม้ว่าสุดท้ายแล้วจะจบไม่สวยและย้ายออกไปอยู่กับอินเตอร์ก็ตาม
กลับมาที่การเสริมทัพของเชลซีในตอนนี้กันบ้างพวกเขาอัดอั้นและท็อปฟอร์มการซื้อขายอย่างมาก และตลาดรอบนี้ก็สำคัญกับพวกเขามากเพราะนี่คือการเสริมทัพที่คาดหวังถึงแผลนอนาคตระยะยาวภายใต้การคุมทีมแฟร้ง แลมพารด์ นั้นเองถึงตรงนี้นักเตะที่พวกเขาได้มามีดังต่อไปนี้
- ฮาคิม ซีเย็ค
- ติโม แวร์เนอร์
- เบน ชีเวล
- ติอาโก้ ซิลวา
- ไค ฮาเวิร์ตซ์
แต่ละรายชื่อจัดว่าเป็นตัวเป้งๆ และมีราคาแพงทั้งสิ้นยกเว้น ซิลวา ที่ได้มาฟรี คำถามคือ!! ทำไมเชลซีถึงเลือกที่จะกระหน่ำซื้อและต้องเป็นนักเตะเหล่านี้ให้ได้ เพราะตลอดฤดูกาลนับตั้งแต่ช่วงที่โดนแบนซื้อขายพวกเขาเล็งใครไว้ ถึงเวลาซื้อจริงเป้าหมายพวกเขาก็ยังคงแน่วแน่ชัดเจน!! เหมือนเดิม
จากวิเคราะห์พูดกันด้วยเหตุและผล แผนการทำทีมของแลมพ์พาร์ดนั้นตลอดการคุมทีมไม่ได้มีชุดผู้เล่นตัวจริงถาวรแต่อย่างใด ถ้าช่วงไหนใครฟอร์มแย่ก็มีดร็อปแน่นอนไม่เกรงใจค่าเหนื่อยหรือค่าตัวใดๆทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เสริมเข้ามานั้นคือการลงทุนระยะยาว ที่ไม่ได้หวังผลแค่ทีมต้องการแชมป์อย่างเดียว แต่มันจะเป็นการดีต่อการแข่งขันภายในทีมตลอดจนการเรียนรู้ถ่ายทอดต่างๆระยะยาว เพราะนักเตะส่วนใหญ่อายุเฉลี่ยในทีมค่อนข้างน้อยและถ้าเกิดติดลมบนจูนกันติดขึ้นมา ทัพนักเตะของเชลซีอาจจะมีอายุการใช้งานไล่ล่าแชมป์ต่อไปได้ยาวนานเกือบ 7-8 ปีจากนี้เลยทีเดียว หรือเผลอๆอาจจะมากกว่านั้น
ฉะนั้นเม็ดเงินที่ทุ่มไปตรงนี้ในช่วงโควิด ที่ทาง FIFA ผ่อนปรนในเรื่องของกฎการเงินด้วยถือเป็นอะไรที่เข้าทางเชลซีมาก ช้อปกระจายสบายกระเป๋าในราคาไม่แพงเว่อร์จนเกินไป ที่สำคัญคือถ้าพวกเขาปล่อยนักเตะบางส่วนออกจากทีมได้ด้วยนี่คือโคตรดีงามเงินหมุนเวียนแถมนักเตะไม่ขี่คอกันลงด้วย ฉลาดลงทุนขอปรบมือให้เชลซี