5 เหตุผลที่ทำให้หงส์แดงเป็น 1 ในใต้หล้า EPL 19/20
สิ้นสุดการรอคอย 30 ปี !! กับ 5 หาเหตุผลที่ทำให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เป็น 1 ในใต้หล้าของ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 19/20 ที่ยากแท้จะหาทีมอื่นใดมาต้านทานได้ในเวลานี้
1. คนแรกที่แฟนบอลลิเวอร์พูลควรให้เครดิตมากที่สุด คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากสุดยอดผู้จัดการทีมอย่าง “๋JK” เจอร์เก้น คล็อปป์
- เจเคเป็นคนเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ณ.ถิ่นแอนฟิลด์ เห็นการทำงานของเขาแล้ว ทำให้อดนึกถึง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือเกิน เพราะกว่าจะยิ่งใหญ่ได้ทั้ง 2 คนต้องใช้เวลานานเพื่อพัฒนาทีม แต่คว้าเมื่อแชมป์แรกมาเชยชมได้ แชมป์อื่นๆก็ไม่ใช้เรื่องยาก
- การปฏิรูปสโมสรขนาดใหญ่ ไม่ใช้เรื่องง่ายๆ JK ต้องนับ 1 ตั้งแต่ก้าวแรกที่เริ่มทำงานกับลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็น หาทีมงานที่ไว้ใจ ซื้อนักเตะที่เขาต้องการเพื่อพัฒนาทีม วางระบบเจอเก้นเพลสซิ่งอันไร้เทียมทาน ให้โอกาสดาวรุ่งที่มีแววขึ้นมารับใช้ทีมชุดใหญ่ อื่นๆอีกมากมายฯลฯ ระยะเวลาถึง 5 ปีครึ่ง กว่าทุกอย่างที่พวกเขาทำมาจะเริ่มส่งผลตอบแทนความเหน็ดเหนื่อย
2. คุณภาพนักเตะ 11 ตัวจริงแข็งแกร่งเกินต้านทาน
- หากวิเคราะห์แบบไม่อวย ต้องพูดตามตรงว่า ขุมกำลังโดยรวมของหงส์แดงยังเป็นรอง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่หลายขุม แต่หากวัดกันแค่ 11 ตัวจริงแล้วละก็ พวกเขาไม่น่าจะเสียเปรียบทีมไหนบนโลกใบนี้ จาก 11 นักเตะตัวจริงเกรดธรรมดาๆ JK ปลุกปั่นจนนักเตะหลายคนยกระดับพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดด ทำให้หลายตำแหน่งของพวกเขาติดอันดับ Top 5 โลกในเวลานี้ เช่น อลีสซง เบ็คเกอร์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ นักเตะที่กล่าวรายชื่อมา ก่อนร่วมงานกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นเพียงนักเตะฝีเท้าดีทั่วไป ที่ทุกทีมสามารถหาซื้อมาเติมคุณภาพภายในทีมได้ แต่เมื่ออยู่ในมือ JK ก็อย่างที่เราเห็นๆกัน ว่าสุดพลังถีบขนาดไหน
3. เกมรับระดับภูผาหิน
- คุณภาพในเกมรับเป็นสิ่งเดียวที่สร้างความแตกต่างให้กับ หงส์แดงและเรือใบสีฟ้า เพราะความเฉียบคมในเกมรุกของทั้ง 2 ทีมแทบไม่แตกต่างกัน ดีไม่ดีทางรองแชมป์จะเหนือกว่าแชมป์ด้วยซ้ำ แต่เพราะเกมหลังบ้านของแชมป์เปี้ยนทำงานกันได้ไร้ที่ติ สถิตพวกเขาโดนเจาะไข่แดกเฉลี่ยไม่ถึงลูกต่อเกม แถมยังเก็บคลีนชีทได้ถึง 14 ครั้งในลีกฤดูกาลนี้ เสียประตูน้อยแต่ยิงได้เยอะ แชมป์พรีเมียร์ ลีก จะหนีไปไหน
4. ฟอร์มการเล่นสม่ำเสมอ
- ลิเวอร์พูลเป็นเพียงทีมเดียวที่มีฟอร์มการเล่นสม่ำเสมอ ส่วน 19 ทีมที่เหลือ มีแค่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง อาการหนักบ้าง เล่นห่วยแตกไปเลยก็ยังมี ข้อนี้ดันเป็นข้อที่สำคัญที่สุดที่ทีมต้องการเป็นแชมป์ลีกพึงต้องมี หากอยากจะยิ่งใหญ่แต่เล่นไม่คงเส้นคงวา อีก 100 ปีก็ไม่วันได้แชมป์ลีก
5. ความอดทนของบอร์ดบริหาร
- บางคนอาจจะคิดว่าไม่สำคัญ แต่ลองนึกภาพตามดีๆ ว่าถ้า เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทีมยักษ์ใหญ่อื่นๆ เช่น บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, เชลซี, บาเยิร์น มิวนิค, ปารีสฯ ฯลฯ และระยะเวลา 4 ปีกว่าๆ ไม่ได้แชมป์อะไรเลย แม้ว่าทีมจะเล่นสนุกตื่นตาตื่นใจ คิดหรือว่าประธานสโมสรทีมเหล่านั้นจะอดทนมากพอไม่ไล่ JK ออกจากสโมสร ? แต่กับบอร์ดบริหารหงส์แดงต่างออกไป แทนที่พวกเขาจะไล่ออก กลับทำในสิ่งตรงกันข้าม JK ต้องการอะไรเบื้องบนจัดให้ ให้อำนาจจัดการแบบเบ็ดเสร็จ ไม่มีล่วงลูก ปล่อยให้ผู้จัดการทีมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ บอร์ดบริหารเชื่อมั่นผู้จัดการทีม อดทนรอ ผลงานทีมจะเป็นอย่างไร ไม่ต้องสนใจ ให้การสนับสนุน JK 100% จนทุกอย่างที่ลงทุนไปออกดอกออกผลตอบแทนทุกเม็ดเหงื่อที่ทุกคนภายในทีมร่วมช่วยสร้างกันขึ้นมา จนพวกเขามีวันนี้ที่รอคอย
เหตุผลพิเศษอีกข้อที่คอยสนับสนุนให้ทีมลิเวอร์พูลก้าวมาถึงจุดนี้ได้ นั้นก็คือแฟนบอลในแอนฟิลด์ ไม่ว่าทีมจะเป็นอย่างไร ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ แฟนบอลหงส์แดงก็คอยสนับสนุนทีมไม่หนีหายไปไหน เช่นเกมเจอบาร์เซโลน่าในศึก UCL ฤดูกาลที่แล้ว ขนาดของสนามแอนฟิลด์จุแฟนบอลน้อยกว่าคัมป์ นู เกือบ 1 เท่าตัว แต่ความดุเดือดในการเชียร์ เสียงเชียร์ของแฟนบอล ดูน่าสยดสยองกว่าคัมป์ นูเยอะมาก แม้ว่าผมไม่เคยไปดูบอลที่สนามแอนฟิลด์ แต่ฟังจากนักข่าวดังหลายๆคน หรือคนที่เคยไปสนามบอลต่างประเทศมามากมาย ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า สนามแห่งนี้คือที่สุดแห่งมนต์ขลังในการเชียร์ฟุตบอล “นรกบนพื้นดินของทีมเยือนมีอยู่จริง”
สุดท้ายนี้ขอแสดงความยินดีกับแฟนบอล “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลทุกคนด้วยนะครับ พวกคุณเหมาะสมจะเป็นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019/2020 ทุกประการ จากใจ ด.เดย์ แฟนบอล “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตัวน้อยๆคนนึง